บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สิ่งที่ค้างคา..ที่เรียกว่าความทรงจำ

นาทีน้อยคล้อยวันให้ผันผ่าน            ฤดูกาลผ่านไปไร้จุดหมาย
พระอาทิตย์สถิตเเสงกระจ่างกระจาย   สลับแสงจันทราฉายพรายรำพึง
ทะเลซัดคลื่นสาดสะอาดตา             เหล่ามัจฉาท้าคลื่นฟองล่องขังขึง
โลกหมุนไปไร้คนคุดมาฉุดดึง           เราคือหนึ่งวัฎจักรชักนำไป
เพียงสิ่งเดียวที่ยังอยู่มิรู้เปลี่ยน          ไม่มีคิดผิดเพี้ยนเปลี่ยนไปไหน
ความทรงจำที่ย้ำคิดติดในใจ            สะท้อนให้ใครใครอื่นมิลืมตน
จะเรื่องดีเรื่องไม่ดีที่มีมา                  ผ่านสายตามาคอยสร้างความสับสน
ล้วนตราตรึงเป็นหนึ่งในใจคน            ไม่มีทางย่างพ้นเเม้คนเดียว
อันความจริงเเน่นิ่งสิ่งไม่ตาย            ต่างมากมายที่คนเล่าเฝ้าเเลเหลียว
หากความจริงสิ่งนั้นใช่สิ่งเดียว          ที่ยึดเหนี่ยวทุกอย่างความเป็นคน
เืมื่อความจริงผ่านไปเพียงไม่นาน      หลังวันวานผ่านไปก็ไร้ผล
กลายเป็นความทรงจำที่ย้ำทน          เกินหนึ่งคนหนึ่งใจจะทิ้งมัน  

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วาง...จงวาง

จะพูดจะจาจะพาจะทีก็มีเเต่เธอ  
จะพ้นจะเพล้อละมงละเมอถึงเธอไม่หาย
ตะกุกตะกักตะขิดตะะข่วงทุกช่วงมิวาย
จะนงจะนอนจะเป็นจะตายให้ได้สิเรา
จะทำไฉนมิให้หัวใจไปรักไปหลง
จะหยุดจะปลงจะเลิกมิหวังลำพังก็เหงา
มิคิดมิรักมิฝักมิใฝ่ให้ใจมันเศร้า
จะทุกข์จะเหงาจะเจ็บจะปวดจะอดจะทน
มิใช่เพราะเธอเพราะเพื่อนเพราะใครอะไรทั้งนั้น
เพราะว่าเพราะฉันจะเปลี่ยนจะกันเพราะความสับสน
จะปล่อยจะวายงจะเว้นจะวรรคมิรักสักคน
จะย่ำจะเดินจะผ่านถนนให้พ้นจากเธอ
จะเพื่ออะไรก็เพื่อหัวใจจะได้มิทุกข์
สงบสว่างสติเเละสุขจะได้มิเผลอ
สนุกสนานสบงสบายมิต้องพึ่งเธอ
จะรู้จะเห็นจะพบจะเจอซึ่งความสุขจริง

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Save?

  มนุษย์ต่างใจ.............ผู้ใดหยั่งรู้
ยากนักจักดู.................ทุกสิ่งในตัว
บางคนคิดดี................บางทีคิดชั่ว
สุดแสนน่ากลัว.............นี่หรือคือคน
ความรับผิดชอบ...........รอบคอบปัญญา
คำพูดวาจา..................ท่าทีมีผล
ล้วนต่างหลากหลาย.......มากมายเพราะคน
ต่างเพศต่างชน.............จึงไม่เหมือนกัน
จะอยู่อย่างไร................ให้ใจมีสุข
ไม่ก่อเรื่องทุกข์..............ทั้งเธอเเละฉัน
สงบสุขุม.....................นุ่มลึกใจนั้น
เหมือนพระคุ้มกัน............ปกป้องผองเรา
มีจิตเสียสละ.................มานะฝักใฝ่
เหมือนเครื่องซื้อใจ........อารีต่อเขา
ดั่งภูมิคุ้มกัน.................สร้างสรรค์มิตรเรา
ไม่รู้ใจเขา....................เเต่เราพ้นภัย

วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สิ่งที่ใช่อาจไม่...สิ่งที่ไม่อาจใช่

 ฤดูเเห่งความหนาวเหน็บเวียนมาอีกครั้งสร้างความรู้สึกหดหู่ใจเเก่ปีศาจตาโตยิ่งนัก   ความทรงจำต่างๆทุกฤดูหนาวที่เขาเคยผ่านมา ไม่ว่าร้าย ดี สนุกสนาน ทุกข์ เเต่มันก็สร้างความประทับใจเเก่เขาเป็นอย่างยิ่ง
   ****  ท่ามกลางผู้คนที่เดินไปอย่างพลุกพล่าน ใครจะรู้ว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องผู้คนเหล่านั้นจนทะลุปรุโปร่งถึงความคิดของพวกเขา  บางคนก็คิดว่ามันช่างดีเหลือเกินที่สามารถหยั่งรู้จิตใจของผู้คนได้เพียงเเวบเดียวที่มองตาของอีกฝ่าย เเต่ปีศาจตาโตนั้นไม่เคยยินดียินร้ายกับความสามารถนี้ของตัวเองเลย     
       เพื่อนๆทุกคนของเขานั้น ต่างมีชีวิตอย่างเคย ราบเรียบปานกระดาษที่ไม่มีเเม้เเต่รอยยับจากการหยิบจับ ดูเเล้วเหมือนทุกอย่างจะมีความสุข อะไรๆก็โอเค ไปหมด  ต่างจากเขา  ที่ชีวิตโลดโผนกระโจนทุ่ง ปานกัปตัน jack sparrow บทบาทของตัวละครหนึ่งในหนังสือที่เขาปราบปลื้มเป็นที่สุด ทุกเรื่องที่เคยทำมาในชีวิต ทุกอย่างที่อยากทำ ปีศาจตาโตจะทำเกือบทั้งหมด เเม้ว่ามันจะเเสนเหนื่อยเเสนลำบาก
เเต่มันก็เป็นเพียงความลำบากในสายตาคนอื่นเท่านั้น เพราะปีศาจตาโตเองกลับรู้สึกว่า

" ยุ่งเหนื่อย มันยิ่งท้าทาย ยิ่งโหดร้าย มันยิ่งสร้างคาวมเข้มเเข็ง ยิ่งทุกข์ตอนนี้อาจจะสร้างความรู้สึกดีในวันหน้า"
      นั่นตากหากที่ปีศาจตาโตเรียกว่าความสุขของชีวิต ครั้งนี้ก็เช่นเคย ผมกำลังมีความสุขกับการที่ระลึกได้ถึงบรรยากาศเเห่งความปีตินั้นอีกครั้งเมื่อลมหนาวมาเยือน เพราะความหนาวช่างเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เเสนประทับใจของเขา   เขายังคงนั่งที่เดิมมองทุกคนที่ผ่านไปผ่านมาพลางเเอบอ่านใจเขาไปทั่วว่าใครบ้างนะ ที่กำลังมีความรู้สึกแบบผม รู้สึกถึงความสุขเล็กๆจากความทรงจำก่อนๆ 
        เเต่ละคนสมองล้วนว่างเปล่า เพราะวันวันคิดเเต่ว่าความสบายดีเเล้ว ดีเเล้ว เเล้วพวกเขาเหล่านั้นก็สบายอย่างนั้นเรื่อยมาๆ  จนไม่มีความประทับใจใดเลยที่ทำให้พวกเขามีความสุขได้ จริงๆ
 หากมีใครบางคนที่แอบอ่านใจผมอยู่ตอนนี้ ผมคงจะยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะความสุขนั้นผ่านไปถึงเขาคนนั้นด้วย ปีศาจตาโตพูดกับตัวเอง  เขาเชื่อว่าบนโลกใบใหญ่นี้ต้องมีสักคนที่ เป็น เเละรู้สึกเหมือนปีศาจตาโต  หนึ่งคนนั้นก็คงจะเป็นผมนี่เอง

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อุปสรรค์มักสร้างคน

..........."ปีศาจตาโตๆๆๆๆๆ  ตื่นได้เเล้ว"  เสียงเเม่ของปีศาจตาโตปลุกให้ตื่น
ปีศาจตาโตรู้สึกเหมือน ลืมตาอย่างยากเย็นที่สดในโลกที่เคยลืมตามา
ความเหน็ดเหนื่อย จากเมื่อคืนทำเอาเขาหมดเรี่ยวเเรง  เเม่ของปีศาจตาโตปลุกเค้าเช้ากว่าปกติเพราะจะใช้ให้ปีศาตตาโตไปทำงานช่วย
///////ระหว่างที่ปีศาจตาโตกำลังงัวเงียอยู่บนที่นอนอันเเสนสบาย เค้าก็พยายามนึกถึงเรื่องราวต่างๆของเมื่อคืนเเละเมื่อวาน ว่ามีอะไรเกิดขึ้นร้าย ดี บ้าง เเพราะตอนนี้เค้าจำอะไรไม่ได้เลย



__เมื่อเขานึกออกเขาก็ตกลงไปในห้วงเเห่งความรู้สึกนั้นอีกครั้ง ความรู้สึกผิดหวัง เศร้า ไร้หนทางเเก้ไขเพราะมันเกิดไปเเล้ว ผ่านไปเเล้ว ครั้นจะทำใจให้รับผลจากการกระทำนั้น ก็ยากนักที่จะมีเเรงใจใหม่          สิ่งที่ทำให้ปีศาจตาโตคิดมากขนาดนี้เนื่องจาก  
       ผลการสอบพลังสะกดจิตของเขาออกมาไม่น่าพอใจนัก  จากการทุ่มเทฝึกฝนมาตั้งเเต่เขาอายุ 12 ขวบ เขาล้มเหลวกับการทดสอบมาหลายครั้งมาก เพื่อนๆทุกคนที่เคยฝึกฝนมาด้วยกัน ต่างก็พัฒนาฝีมือไปเรื่อย เเต่ปีศาจตาโตกลับย่ำอยู่ที่เดิมมานานมาก
       จะไม่ให้เขาคิดมากได้อย่างไรกัน  เขาพยายามหยัดยืนขึ้นมาทุกครั้งที่ล้ม ที่พ่ายเเพ้ เเละครั้งนี้ก็เช่นกัน จนเค้ารู้สึกว่า เค้าไม่เหมาะที่จะเป็นปีศาจตาเลย เพราะทุกคนที่เกิดมาเป็นปีศาจตา จะต้องมีพลังสะกิดจิตทุกคน ยกเว้นเเต่เพียงเค้า ล่ะมั้ง ? เพราะเค้าสอบตกทุกครั้งเลย
-------
-------เมื่อปีศาจตาโตระลึกได้ถึงเรื่องราวอันเจ็บปวดนี้ออก  เขาก็เดินออกจากประตูห้องนอนไปสู่โลกกว้างที่เเสนจะเย็นชากับเขาเพื่ออยู่ต่อ ทำอะไรอะไรต่อไปอย่างหน้าโง่ๆ
เเม่เคยอกเสมอว่า "ยิ่งกำเเพงสูงเท่าไหร่ คนที่ข้ามผ่านไปได้ย่อมเป็นอัศวินที่เเข็งเกร่งกว่าใคร"
  ปีศาจตาโตนึดถึงคำนี้เสมอ เพื่อให้ตัวเองมีกำลังใจในการฝึกฝนตนเอง  เพื่อที่จะเป็นปีศาจตาเต็มตัวจะได้ไม่ต้องให้เเม่ของเขาเหนื่อยหนัก ทำงานเลี้ยงดูเขาไปเรื่อยๆเช่นนี้
  เเม้ตอนนี้เรี่ยวเเรงของปีศาจตาโตจะหมดไป  กำลังใจก็ไม่เหลือ
  เเต่........ร่างกายของเขายังคงขับเคลื่อนไปทุกๆวินาทีตราบจนถึงวันตาย
ดังนั้น..........มันก็จำเป็นที่เขาต้องทนต่อไป ทนกับโชคชะตา ทนกับกำเเพงที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
 
"ทำไงได้ล่ะ ก็เราไม่โชตดีเหมือนคนอื่นเค้า"            ปีศาจตาโตพูดประโยคนี้พลางผูกเชือกรองเท้าให้เเม่น  เพื่อความมั่นใจว่าเท้าสองข้างนี้ของเค้าจะเดินไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ  ---------

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สรรพสิ่งที่นิ่งเฉย---

ทุกสิ่งในโลกา           ล้วนได้มาด้วยความยาก
ผู้ใดที่มักมาก            ไอ้ความอยากก็มากมี
ฝันใฝ่ความสุขสม      ชอบอารมณ์ความสุขขี
เกลียดสิ่งมาโจมตี      ขี้เกียจหนีจะต่อกร
หากนิ่งอยู่กับที่          ชีวิตนี้คงสลอน
ฝันได้เเต่ยามนอน      อยู่บนหมอนยามนิทรา
เริงรมเพียงชั่ววูบ        ยามมันฟุบก็เหมือนหมา
นอนรอโชคชะตา       มาเมตตาสงสารตน
หากสู้เเต่ทีเเรก          คงไม่เเตกเเยกสับสน
คนเรามีตัวตน            ใยต้องสนคนบงการ
ชีวิตคือชีวิต              ต้องลิขิตอย่าพึงหมาน
ไม่ทำเหล่าการงาน     อวสานการเป็นคน
คนดีก็ดีต่อ               อย่าไปท้อพึงสับสน
คนชั่วไม่ดิ้นรน          สักล้านหนไม่พ้นกรรม
ใคว่คว้ามาซึ่งรัก        ให้เหนี่ยวหนักอย่าถลัม
รักกันบรรจงทำ          ความดีล้ำเพื่อเติมใจ
เวลาพากาลเปลี่ยน     หมุนเเละเวียนไปวันใหม่
อย่าคิดทิ้งหัวใจ         จะเพื่อใครก็เพื่อตน

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มารในใจ

สัปดลใจตนหนอท้อเเท้จิต                 คนึงคิดจิตไตร่ตรองเฝ้ามองหา
เหตุไฉนใจร้อนรุ่มกลุ้มอุรา                 ถาวนาให้ข้าฝันพลันตื่นตัว
อยู่คนเดียวเเสนเปลี่ยวใจเพราะไร้รัก     แต่ยุ่งนักหากมีรักมักปวดหัว
อยู่คนเดียวห่อเหี่ยวใจไม่รู้ตัว              เเต่ก็กลัวหากจะรักมักจี่ใคร
คนดีดีนั้นก็มีเเต่หายาก                      เเต่ดีมากยากนักจะรักไหว
เขาคงเลือกคนดีกว่ามาคู่ใจ                เราเป็นได้เเค่สายลมที่ตรมตรอม
ไม่ได้ขอคนดีพอให้มาสน                  ขอเเค่คนที่พอดีมีหวานหอม
ไม่หรูหราเลิศหล่อฉันก็ยอม                เเค่เธอพร้อมจะเคียงข้างย่างก้าวไป